Latest posts

ผีเจ้าขา

ผีเจ้าขา

สวัสดีครับผมทำงานที่โรงพิมพ์แห่งหนึ่ง ขอสงวนจังหวัดไว้นะครับตอนนี้เขายังดำเนินกิจการอยู่ ผมทำงานเป็นแผนกกราฟฟิกอยู่ที่โรงพิมพ์แห่งนี้ผมจะอธิบายให้ฟังก่อนโรงพิมพ์ที่ผมอยู่จะเป็นคูหาใหญ่ๆ 3 ชั้นชั้นล่างจะเป็นออฟฟิศกับเครื่องพิมพ์ ส่วนชั้น 2 จะเป็นที่ประกอบงาน มี 2 ตึกนะครับอีกตึกนึงโกดังเก็บของเอาไว้เก็บอุปกรณ์เครื่องพิมพ์เครื่องมือ ส่วนชั้น 2 ของตึกที่ 2 จะเป็นที่ที่ผมอาศัยอยู่โรงพิมพ์ที่ผมอยู่นี้เป็นสาขาย่อย สาขาใหญ่จะอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง แล้วโรงพิมพ์นี้เขาอยากจะขยายเพิ่มเพราะตัวผมเองผมทำยอดได้เยอะ เขาจึงอยากเพิ่มอีกคูหานึงเพื่อให้เป็นออฟฟิศแยกไปเลย จุดเริ่มต้นมันอยู่ที่แนวคิดที่จะเพิ่มขยายคูหาใหม่ วันนั้นผมคุยกับผู้จัดการ ชื่อที่จะเอ่ยออกมาต่อไปนี้จะเป็นชื่อสมมติหมดเลยนะครับ พี่ผู้จัดการคนนี้เขาชื่อพี่แยมครับวันนั้นผมคุยกันเรื่องจะย้ายออฟฟิศเก่าเข้ามาที่ตึกใหม่ พี่ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวรอคุยกับบอสใหญ่ก่อน คุยไปคุยมาเขาก็อนุมัติ ในวันที่เขาตกลงอนุมัติผมเนี่ยฝัน ผมฝันว่า มีคนมามองผมจากชั้น 3 รู้สึกว่ามีคนมองจากชั้น 3 ลงมาทางบันไดและในฝันเนี่ยไม่รู้ว่าผมเป็นยังไงต้องเดินตามไปดู คนผู้อ่านลองนึกภาพตามดูนะครับ ประตูที่ชั้น 3 เนี่ยมันไม่ใช่ประตูปกติแบบแนวตั้งแบบประตูบ้านปกติมันเป็นประตูแนวนอนคล้ายๆ กับประตูบานม้วนนะครับ แล้วในฝันเนี่ยประตูมันเปิดพรึบขึ้นไปทีเดียวไม่ได้มันต้องค่อยๆเปิดทีละนิดทีละนิด ในฝันผมค่อยๆ แง้มประตูขึ้นไปทีละนิดทีละนิด ผมเจอขาขาเหมือนคนเขายืนรออยู่ก็ขาดสีดำดำแบบดำเลยอ่ะครับ ในฝันก็อ่ะโอเคกูเจอแล้วกูเจอดีแล้วแล้วก็ปิดประตูแล้วก็ลงมา แล้วก็ตื่นครับ เช้ามาผมก็เล่าเรื่องนี้ให้พี่แยมผู้จัดการฟัง ผู้จัดการและผมก็มานั่งวิเคราะห์กันว่าเขาคงมาหยอกคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เรื่องก็ดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ จนเราได้ตึกใหม่ได้ออฟฟิศใหม่ ระหว่างที่ได้ออฟฟิศใหม่ก็มีการตกแต่งสถานที่ออฟฟิศใหม่ด้วยมีการเบิกงบมาตกแต่งทำความสะอาดใหม่เคาน์เตอร์โต๊ะใหม่เรียบร้อย ทีนี้ผมก็ถามพี่แยมว่า พี่ และเราจะทำบุญขึ้นตึกใหม่ไหม พี่แอนบอกว่าไม่เป็นไรหรอกตอนนี้งานยุ่งอยู่เอาไว้ก่อน การที่เปิดออฟฟิศใหม่ก็จะมีพี่แยมที่เป็นผู้จัดการออฟฟิศมีผมที่เป็นกราฟฟิกซึ่งไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ที่โรงพิมพ์ เพราะเราสามารถโอนงานกันได้ก็เลยมาทำงานที่ออฟฟิศใหม่ ตอนนั้นจะมีเด็กฝึกงานอยู่…

หิ่งห้อยและการรอคอย

หิ่งห้อยและการรอคอย

กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก มีเด็กน้อนคนหนี่งเขาอาศัยอยู่กับปู่ ซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน เขามีความรู้สึกว่า ไม่ว่าจะอยากได้สิ่งใดปู่ของเขาก็มักจะบอกว่าต้องให้รอก่อนอยู่ร่ำไป “เราต้องหัดปลูกผักกินเองนะหลานเอ๋ย จะได้ไม่ต้องไปซื้อคนอื่นเขากิน” เด็กน้อยก็ตอบกลับปู่ไปว่า “ท่านปู่ เราปลูกผักไว้แล้ว เมื่อไหร่ถึงจะได้กินหรือครับ?” “ก็ต้องรอให้มันเติบโตเสียก่อน สัก2-3 อาทิตย์” ปู่ตอบกลับเจ้าหลานตัวน้อย วันหนึ่งเด็กน้อยอยากกินอาหารอร่อยๆ ในเมือง “ท่านปู่ๆ ข้าอยากกินติ่มซำในเมือง” ปู่ก็ได้ให้คำตอบประมาณเดิมว่า “รอก่อนนะหลานเอ๋ย เดี๋ยวเมื่อเราขายผลผลิตได้ดีแล้ว ปู่จะพาเจ้าไปกินนะ” เด็กน้อยเกิดคำถามมากมายขึ้นภายในจิตใจ ‘ทำไมนะ เราจะต้องรออยู่ร่ำไป’ ‘เวลาอยากได้อะไรสิ่งใด ทำไมไม่ได้เดี๋ยวนั้นเลย’ เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาจึงเดินเข้าไปถามปู่ของเขาว่า “ท่านปู่ครับ ทำไมเวลาข้าอยากได้สิ่งใดท่านถึงให้ข้ารออยู่ร่ำไป ไม่เคยได้อะไรทันใจข้าเลบสักที” ในที่สุดสิ่งเด็กชายตัวน้อยสงสัยมากตลอดก็ถูกเอ่ยออกจากปากเพราะทนเก็บความสงสัยไม่ได้อีกต่อ “ก็เพราะว่าเราไม่มีเงินน่ะสิหลานเอ๋ย เราก็เลยต้องรอให้เงินเราพร้อมเสียก่อน” ปู่ตอบอย่างยิ้มแย้ม “แล้วทำไมท่านไม่ไปหยิบยืมหรือเป็นหนี้มาก่อนเล่า ข้าเห็นชาวบ้านคนอื่นเขาก็เป็นหนี้กันทั้งนั้น เวลาอยากได้สิ่งใดจะได้ทันทันใจหน่อย” ปู่ของเจ้าเด็กน้อยจตึงได้สอนเขาว่า “หากไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำคัญ เราก็ไม่ควรสร้างหนี้สินนะหลานรัก เพียงแค่เรานิดหน่อย เมื่อถึงเวลาก็ไม่ต้องเป็นหนี้สินแล้วอย่างไรล่ะ เราไม่มีหนี้ เราก็จะได้มีความสุขอย่างไรล่ะ” เด็กน้อยได้ฟังก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ‘การรอคอยมันจะมีความสุขได้อย่างไร ข้าไม่เคยเห็นว่าข้าจะมรความสุขเสียที ต้องได้อะไรทันใจข้าสิถึงจะเรียกว่ามีความสุข’ เจ้าเด็กน้อยนึกคิดขึ้นมาภายในใจ นานวันเข้าเขาก็เริ่มรู้สึกว่าจะทนไม่ไหวกับปู่ของเขาเข้าไปทุกที “ท่านปู่ เมื่อด่านจะซื้อเรือลำใหม่เสียที เรือลำเก่ามันเริ่มจะพังแล้ว…

หลวงพี่ผีโพง

หลวงพี่ผีโพง วัดหลอนสยองขวัญ

กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ณ วัดประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีหลวงพ่อพจน์เป็นเจ้าอาวาสมีพระลูกวัดคือพระแดงและสามเณรโด่ง ทั้งสามรูปปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่ขาดตกบกพร่องจนเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้าน กลางดึกของคืนหนึ่งในฤดูฝน ขณะที่สามเณรโด่งลงมาเข้าห้องน้ำก็เห็นแสงเรืองๆ คล้ายกับหิ่งห้อยลอยกลางอากาศ เณรโด่งไม่ได้สนใจนัก พอปลดทุกข์เสร็จแล้วกำลังเดินกลับกุฏิ แสงเรืองๆ นั้นก็ลอยเข้ามาใกล้ๆ จนเห็นชัดว่ามันไม่ใช่หิ่งห้อยอย่างที่คิด แต่มันคือ “ผีโพง” ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับพระแดง สามเณรโด่งตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูกจึงรีบเดินออกมา แต่ผีโพงก็ตามมาติดๆ ทำให้เณรโด่งกลัวจนแทบสติแตก ผีโผงถาม “จะไปไหนรึเณร หยุดคุยกับหลวงพี่ก่อนสิ” เสียงอันเยือกเย็นของผีโพงยิ่งทำให้สามเณรกลัวมาก แต่ยิ่งเขายิ่งกลัว และยิ่งหนีมากเท่าไรผีโพงก็จะยิ่งตามมาอย่างรวดเร็วมากเท่านั้น เมื่อถึงกุฏิหลวงพ่อพจน์ พอหันกลับมาก็ไม่เห็นผีโพงแล้ว แต่เณรก็ยังหวาดกลัวไม่หายจึงเคาะประตูเรียกหลวงพ่อพจน์ สามเณรกล่าว “หลวงพ่อ หลวงพ่อครับ” หลวงพ่อพจน์สะดุ้งตื่นทันทีเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู หลวงพ่อพจน์กล่าว “อ่าวเณร มีอะไรสำคัญหรือเปล่า ทำไมถึงมาดึกๆ ดื่นๆ” สามเณรตอบ “เมื่อกี้ผมไปเข้าห้องน้ำแล้วเจอผีโพงอยู่หน้าห้องน้ำ” หลวงพ่อพจน์กล่าวตอบ “เณรใจเย็นๆ นะ เจอพวกเขาก็แผ่เมตตาให้ ไม่ต้องกลัว” เณรเลยตอบไปว่า “แต่.. ผีโพงตนนั้นมันหน้าตาเหมือนกับหลวงพี่แดงน่ะสิครับ” หลวงพ่อพจน์เลยตอบกลับไปว่า “เณรตาฟาดไปหรือเปล่า พระแดงจะเป็นผีโพงได้ยังไง ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าพระแดงชอบสวดมนต์ภาวนา ปฏิบัติดีมาโดยตลอด” เณรตอบอย่างลุกลี้ลุกลน “แต่ผมเห็นเป็นเขาจริงๆ…

ผีเจ้าขา

ผีเจ้าขา

สวัสดีครับผมทำงานที่โรงพิมพ์แห่งหนึ่ง ขอสงวนจังหวัดไว้นะครับตอนนี้เขายังดำเนินกิจการอยู่ ผมทำงานเป็นแผนกกราฟฟิกอยู่ที่โรงพิมพ์แห่งนี้ผมจะอธิบายให้ฟังก่อนโรงพิมพ์ที่ผมอยู่จะเป็นคูหาใหญ่ๆ 3 ชั้นชั้นล่างจะเป็นออฟฟิศกับเครื่องพิมพ์ ส่วนชั้น 2 จะเป็นที่ประกอบงาน มี 2 ตึกนะครับอีกตึกนึงโกดังเก็บของเอาไว้เก็บอุปกรณ์เครื่องพิมพ์เครื่องมือ ส่วนชั้น 2 ของตึกที่ 2 จะเป็นที่ที่ผมอาศัยอยู่โรงพิมพ์ที่ผมอยู่นี้เป็นสาขาย่อย สาขาใหญ่จะอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง แล้วโรงพิมพ์นี้เขาอยากจะขยายเพิ่มเพราะตัวผมเองผมทำยอดได้เยอะ เขาจึงอยากเพิ่มอีกคูหานึงเพื่อให้เป็นออฟฟิศแยกไปเลย จุดเริ่มต้นมันอยู่ที่แนวคิดที่จะเพิ่มขยายคูหาใหม่…

Continue reading
หิ่งห้อยและการรอคอย

หิ่งห้อยและการรอคอย

กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก มีเด็กน้อนคนหนี่งเขาอาศัยอยู่กับปู่ ซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน เขามีความรู้สึกว่า ไม่ว่าจะอยากได้สิ่งใดปู่ของเขาก็มักจะบอกว่าต้องให้รอก่อนอยู่ร่ำไป “เราต้องหัดปลูกผักกินเองนะหลานเอ๋ย จะได้ไม่ต้องไปซื้อคนอื่นเขากิน” เด็กน้อยก็ตอบกลับปู่ไปว่า “ท่านปู่ เราปลูกผักไว้แล้ว เมื่อไหร่ถึงจะได้กินหรือครับ?” “ก็ต้องรอให้มันเติบโตเสียก่อน สัก2-3 อาทิตย์” ปู่ตอบกลับเจ้าหลานตัวน้อย วันหนึ่งเด็กน้อยอยากกินอาหารอร่อยๆ ในเมือง “ท่านปู่ๆ ข้าอยากกินติ่มซำในเมือง” ปู่ก็ได้ให้คำตอบประมาณเดิมว่า…

Continue reading
หลวงพี่ผีโพง

หลวงพี่ผีโพง วัดหลอนสยองขวัญ

กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ณ วัดประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีหลวงพ่อพจน์เป็นเจ้าอาวาสมีพระลูกวัดคือพระแดงและสามเณรโด่ง ทั้งสามรูปปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่ขาดตกบกพร่องจนเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้าน กลางดึกของคืนหนึ่งในฤดูฝน ขณะที่สามเณรโด่งลงมาเข้าห้องน้ำก็เห็นแสงเรืองๆ คล้ายกับหิ่งห้อยลอยกลางอากาศ เณรโด่งไม่ได้สนใจนัก พอปลดทุกข์เสร็จแล้วกำลังเดินกลับกุฏิ แสงเรืองๆ นั้นก็ลอยเข้ามาใกล้ๆ จนเห็นชัดว่ามันไม่ใช่หิ่งห้อยอย่างที่คิด แต่มันคือ “ผีโพง” ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับพระแดง สามเณรโด่งตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูกจึงรีบเดินออกมา แต่ผีโพงก็ตามมาติดๆ ทำให้เณรโด่งกลัวจนแทบสติแตก ผีโผงถาม…

Continue reading
เจ้าป่าเจ้าเขา

เจ้าป่าเจ้าเขา

นั่งๆ อยู่ก็เหมือนมีเสียงพระสวดลอยมา ฝ่ายพ่อก็รีบลุกขึ้นทันที เกาะแขนรูปแล้วรีบเดินตามเสียงสวดนั้นไป แค่ได้ยินเสียงพระสวดแกก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่เสียงพระจริงๆ อยู่กลางป่าแบบนี้พระที่ไหนจะมาสวด… และสำหรับสัปดาห์นี้นะครับ มีน้องคนนึงได้ส่งเรื่องมานะครับ ซึ่งเรื่องที่ผมจะเล่าในวันนี้เนี่ย เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจมากครับ ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในต่างประเทศ และไม่ใช่เรื่องแต่ง น้องเขาบอกมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ที่เหมือนเมืองพัทลุง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อบนป่า บนเขาหรือที่เราเรียกกัน เจ้าป่าเจ้าเขานั่นเองครับ ซึ่งวันนี้เดี๋ยวเราจะมาลองอ่านเรื่องนี้พร้อมๆ กัน ว่าเรื่องจะน่ากลัวมากแค่ไหนไปรับชมกันได้เลยครับ…

Continue reading
Judith Barsi (1978-1988)

Judith Barsi (1978-1988)

นี่คือเรื่องราวของพ่อแม่ใจร้ายขายลูกสาวกินที่กลายเป็นคดีใหญ่สะเทือนวงการบันเทิงฮอลลีวูด เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ถูกแม่ฝึกฝนให้เป็นดาราตั้งแต่อายุสามขวบ ต้องทำงานหนักทุกวันจนโตเพื่อหาเงินเลี้ยงพ่อแม่ แต่คนเป็นพ่อกลับอิจฉาลูกสาวที่มีชีวิตดีกว่าตัวเอง! ในปี 1978 ในแอลเอ อเมริกา เด็กหญิงคนหนึ่งชื่อจูดิธ (ต่อไปนี้จะเรียกว่าจูล) ถือกำเนิดขึ้นจูลเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ที่ไม่รวย ด้วยความที่แม่ใฝ่ฝันอยากเป็นดาราแต่ไปไม่ถึงฝัน แม่เลยจัดการปั้นจูลให้เป็นดาราตั้งแต่เริ่มเดินได้เริ่มพูดได้! แม่ต้องฝึกให้เธอเป็นดาราทุกวัน แม่จะฝึกให้ลูกเดิน (อย่าลืมนี่คือเด็กสองหรือสามขวบ) ฝึกพูดสำเนียง เรียนไอซ์สเก็ต ฯลฯ…

Continue reading
สัตว์ประหลาดแห่งเนเวอร์แลนด์

สัตว์ประหลาดแห่งเนเวอร์แลนด์

เรื่องราวนี้เป็นโศกนาฏกรรมที่กลายเป็นต้นกำเนิดของนิทานชื่อดังมากมายอย่าง “ปีเตอร์ แพน” คุณรู้หรือไม่ว่าปีเตอร์แพนมาจากเด็กที่มีตัวตนอยู่จริง? เบื้องหลังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความตายและความสูญเสีย รวมถึงความลับและปริศนาจากผู้เขียนที่ถูกปิดบังและตั้งคำถามมาโดยตลอด ย้อนไปอังกฤษในปี 1889 บ่ายวันหนึ่งในสวนสาธารณะเคนซิงตัน พี่น้องสองคนอายุห้าและสี่ขวบกำลังเล่นอย่างมีความสุข เด็กชายสองคนนี้ชื่อจอร์จและแจ็ค ในวันนั้นพ่อแม่ปล่อยให้ลูกๆ เล่นภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงเด็ก แต่ทันใดนั้นก็มีชายแปลกหน้าก้าวเข้ามาในชีวิตของเด็กเหล่านี้ ในปี 1866 มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อเจมส์ (ต่อไปนี้จะเรียกว่าแบร์รี่) แบร์รี่มีพี่ชายชื่อเดวิดซึ่งเป็นลูกคนโปรดของพ่อแม่ วันหนึ่ง…

Continue reading
ปล่อยวาง

ปล่อยวาง : การปล่อยวางความทุกข์ ทำได้จริงหรือไม่

กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก มีเศรษฐีคนหนึ่งเขารู้สึกว่ากิจการและภาระหน้าที่การงานของเขานั้นทำให้เขาเป็นทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เพราะเขามีสิ่งที่ต้องกังวลเต็มหัวจิตหัวใจมากมายเต็มเสียไปหมด “การทำการค้านี่ต้องอยู่กับการเงิน การลงทุนตลอด เวลาลงทุนเยอะ เวลาลงทุนอะไรไปแล้วต้องมัวมากังวลแต่ว่าจะขายออกหรือไม่ คู่แข่งจะเยอะหรือไม่ ราคาสินค้านั้นจะตกลงหรือไม่ ทำให้ถึงแม้ตัวข้าจะมีเงินทองมากมายสักเท่าไหร่ ก็ไม่รู้สึกว่าชีวิตจะมีความสุขอันใดเลย” เขาเป็นอยู่อย่างนี้มาเนินนานแล้ว ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งเกิดเป็นความเครียดสะสม จนเขารู้สึกว่าทนอยู่แบบไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาคิดขึ้นมาได้ว่า “เป็นเช่นนี้ต่อไปการมีเงินมีทองมากมายจะมีประโยชน์อันใด ในเมื่อตัวข้านั้นไม่มีความสุข ข้าได้ยินมาว่าบนเขาปัญญายุทธ์ มีนักพรตปริศนาผู้หนึ่ง ท่านมีของวิเศษ…

Continue reading